ประวัติ ความเป็นมา
เรื่องราวของพระพรหมได้ผสมผสานเล่าขาน สืบต่อกันมา ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีประวัติกล่าวไว้ในหนังสือ และคัมภีราของศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์ การกำเนิดพระพรหมของพระพุทธศาสนาสืบเนื่องมาจาก พระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เทพยดา พระราชา พราหมณ์ปุโรหิต พระโยคี พระฤาษี ชีพราหมณ์ พระภิกษุสามเณรผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ และมีความเพียรกล้า ศรัทธาปรารถนาเพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส จึงตั้งใจบำเพ็ญเพียรวิปัสสนากรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ จนสำเร็จฌานในขั้นต่าง ๆ ที่ได้บรรลุแล้วนั้น เมื่อสิ้นอายุขัย จะนำตนไปเกิดยังเทวโลก และพรหมโลก ครั้นเมื่อไปเกิดยังพรหมโลกแล้ว ไม่มีความเดือดร้อนใด ๆ ไม่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับโลกภายนอก ไม่ต้องขับขถ่ายอุจจาระ หรือปัสสาวะอันลามก มีแต่ความสุขสบาย เสวยพรหมสมบัติ วิมารนทิพย์ ปราสาททิพย์ กายทิพย์ หูทิพย์ ตาทิพย์ เสวยอาหารทิพย์ เป็นเวลานานแสนนานตราบสิ้นอายุขัยของพระพรหม ในพรหมโลกสรีระร่างกายของพระพรหม เป็นรูปทิพย์ที่งามสง่า อวัยวะร่างกาย ข้อศอก แขน ขา เข่า ไหล่ ไม่มีรอยต่อ มีลักษณะกลมเกลี้ยงสวยงาม มีรัศมีกายรุ่งโรจน์ประภัสสร เจิดจ้างดงามยิ่งกว่า แสงพระอาทิตน์ และพระจันทร์ สำหรับท้าวมหาพรหมณ์ คือพระพรหมที่สถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ ซญึ่งเป็นประมุขแห่งพระพรหมในชั้นปฐมฌาน มหาพรหมาภูมิมีพระพรหมอยู่เป็นจำนวนนับล้านองค์ แต่ท้าวมหาพรหมที่รู้จักกันในศาสนาพราหมณ์นั้น มีเพียงไม่กี่องค์ ได้แก่ พระพรหมธาดา ท้าวกบิลพรหม ท้าวพกาพรหม เป็นต้น ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และมีอานุภาพมากมายนานาประการ การสร้างเทวรูปของท้าวมหาพรหมณ์ นิยมสร้างสี่หน้า สี่มือ หรือแปดหน้า แปดมือถือของต่าง ๆ กันเช่น ช้อนตักไขเนยลงในไฟ หม้อน้ำสำหรับใส่น้ำจากแม่น้ำคงคา คัมภีร์พระเวท เทพศาสตรา คทาอาญาสิทธิ์ ศรและลูกธนู พรศอคล้องประคำ พรกายสีแดงหรือสีขาว ปัจจุบันนิยมสร้างมีกายเป็นสีทอง มีม้าหรือหงส์เป็นพาหนะการกำหนดอายุพระพรหมในพรหมโลกแต่ละชั้นไม่เท่ากัน มีอายุยืนยาวนานเป็นกัลป์ อสงไขยกัลป์ อันตรกัลป์ ภัทรกัลป์ และมหากัลป์ แต่ได้ประมาณเอาไว้ว่า 1 กัลป์เท่ากับ 12,000,000 ปีสวรรค์ และ 1 ปีสวรรค์ เท่ากับ 360 ปี